เคยได้ยินประโยคนี้ไหมครับ “มนุษย์จะตัดสินใจไม่ได้ ถ้ามีตัวเลือกมากกว่า 3 อย่างขึ้นไป” ในฐานะที่ทุกคนมีบทบาทของการเป็นผู้บริโภคหรือ “ลูกค้า” เหมือนกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง คิดว่าประโยคนี้เป็นจริงหรือเปล่าครับ? ในฐานะที่ปรึกษาด้านการตลาดในธุรกิจโรงแรม ผมมักพูดถึง “กฎ 3 ข้อ” นี้อยู่เสมอ แล้วรู้ไหมว่าทำไมตอนนี้ถึงเหมาะสุดที่ผมเลือกเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ฟัง? เพราะธุรกิจบริการทุกประเภทกำลังจะเข้าสู่ Low Season ช่วงเวลาอันยากลำบากของธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารที่เวียนมาท้าทายความสามารถเจ้าของธุรกิจทุกปี
เป็นเรื่องปกติมาก ๆ ที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมแผนสำหรับออกโปรโมชั่นเพื่อหารายได้มาประคับประคองธุรกิจในช่วงที่การท่องเที่ยวจะเริ่มซบเซาในช่วงกลางปี สำหรับผู้ที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวโรแรมและร้านอาหารที่กำลังจะออกโปรใหม่ ๆ ผมแนะนำให้อ่านบทความนี้ก่อนครับ แล้วจะรู้ว่า…
ธุรกิจโรงแรมอย่าออกโปรเยอะเกินไป เชื่อว่าหลายแห่งวางแผนจะออกโปรที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ ลดราคาห้องพักทุกประเภท ทำแพ็คเกจออกมาเต็มไปหมด คิดว่ายิ่งเยอะยิ่งดีเหรอครับ? รู้ไหมว่าปัญหาที่จะตามมาก็คือ
- ข้อมูลเยอะ ลูกค้าลายตา ขี้เกียจอ่าน
- พอเยอะไปลูกค้าจะเริ่มเปรียบเทียบ อันโน้นก็ดี อันนี้ก็ดี สุดท้ายเลือกไม่ถูก จนในที่สุดไปสนใจเรื่องอื่นแทน
น่าเสียดายมั้ยล่ะครับ
ดังนั้น จำไว้ว่าทุกครั้งเวลาออกโปรโมชั่น สิ่งที่เราควรทำก็คือ
- ตัดตัวเลือก – ดูข้อเสนอที่คุ้มค่าสุดทั้งสำหรับเราในฐานะผู้ขาย และดูคุ้มค่าในสายตาผู้ซื้อ ควรตัดออกไปให้เหลือไม่เกิน 3 ตัวเลือก เช่น ถ้าโรงแรมมีห้อง 5 ประเภท เลือกมาทำโปรแค่ 3 ที่เราคิดว่าจะขายได้ดีที่สุด ห้องที่เหลือไม่ต้องทำโปรในครั้งนี้
- ทำตลาดออนไลน์ควรต้องใจถึง – อย่าออกโปรที่มีเงื่อนไขยุบยิบ ยิ่งเงื่อนไขเยอะ คนยิ่งคิดมาก อยากขายได้ต้องใจถึง เน้นความง่ายสำหรับลูกค้าเข้าไว้
- CashFlow – ในภาวะที่การแข่งขันสูงแต่กำลังซื้อต่ำ ให้คำนึงถึงกระแสเงินสดเป็นหลัก อย่าลืมว่าหากเราอยู่เฉย ๆ ยอดขายจะ = 0 แต่การปล่อยโปรไปบนช่องทางออนไลน์ อาจจะทำให้เกิดรายได้จากคนที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีความต้องการสินค้าของเรา ดังนั้นถ้าขายได้ขายไปก่อน ยังไงก็กำไร
สำหรับธุรกิจร้านอาหาร อยากให้จำขึ้นใจไว้เลยว่า “อร่อยทุกอย่างเป็นคำที่ฟังดูดี แต่ไม่เพิ่มยอดขาย” เจ้าของร้านอาหารควรเอากฎ 3 ตัวเลือกมาใช้ได้บ่อย ๆ เหมือนกัน เช่น เทรนพนักงานไปเลยว่าร้าน “เรามีอาหารแนะนำ 3 อย่างครับ” สำหรับการเลือก 3 เมนูควรมีความสมดุลย์ระหว่าง 4 ปัจจัยนี้
- ต้นทุน
- ผลกำไรต่อจาน
- ระยะเวลาในการประกอบอาหารแต่ละจาน
- ความนิยมของเมนูนั้น
วิธีนี้จะทำให้ยอดขายเพิ่ม อัตราเทิร์นของลูกค้าเร็วขึ้น และใช้เวลารับออร์เดอร์แต่ละครั้งลดลง ที่สำคัญมาก ๆ คือการทำโปรโมชั่นไม่ควรลดแหลกแจกทุกอย่าง จับคู่อาหารซัก 3 เซต หรือหาเมนูเด่นมาทำโปรโมชั่นสัก 3 จาน “แล้วลดให้หนัก” ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยชี้นำลูกค้าในการสั่งอาหารได้ดี และการทำให้การบริหารจัดการภายในครัวทำงานได้ง่ายขึ้น ก็สามารถสร้างผลกำไรได้มากขึ้นด้วยครับ
ใครอ่านแล้วคิดว่าน่าจะเป็นประโยชร์ลองนำไปปรับใช้กันดูได้เลยนะครับ ได้ผลอย่างไร ก็อย่าลืมนำมาเล่าสู่กันฟังด้วยล่ะ
1 comment
Hi, this is a comment.
To get started with moderating, editing, and deleting comments, please visit the Comments screen in the dashboard.
Commenter avatars come from Gravatar.